ถ้าคิดว่าคุณไม่งงพอในการอ่านนิยายเรื่องที่ซับซ้อนแบบนี้ พร้อมแล้วงั้นหรอ อ่านสิ ไม่ซับซ้อนกว่าที่คิดหรอก
ทำไมต้องเป็นผมที่เป็นแบบนี้ แล้วต้องทำยังไงผมถึงจะได้เธอมาครอบครอง..
มันเกิดจากตัวนายเองจีมิน นายทำให้ฉันต้องทรมารกว่านาย อยากรู้ไหมล่ะ
นายแค่ต้องเจ็บกว่าลูกสาวฉันร้อยเท่า ปาร์ค จีมิน
หึ! เธอมันแค่ดอกกุหลาบดอกนึงที่ฉันปลูกมันขึ้นมาเอง เธอมันดอกไม้ปีศาจที่ฉันดันหลงไหลแค่ความสวยงามเธออาจจะคิดแค่นั้นแต่ขอโทษนะ ฉันคิดมากกว่าที่เธอคิดอีก อย่าเพิ่งเหลาหนามรอบตัวให้คมกว่านี้เลยขอร้อง หนามรอบตัวเธอมันทำให้ฉันเข้าหาเธอยากและโดนแทงตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่สงสารฉันบ้างเลยหรอ เห็นใจกันหน่อย ขอโทษ......
ภายในคฤหาสน์หลังโตที่แทบจะหาจุดจบของความกว้างขวางไม่ได้ มีเด็กสาวอายุเพียง 20 ปี นั้งอ่านบันทึกหนักสือเล่มหนึ่งอยู่ในห้องลับที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ ซึ่งห้องอยู่ใต้ดินของตัวคฤหาสน์ เพื่อหลบหนีจากความวุ่นวายของสิ่งมีชีวิตเหนือมนุษย์ ใช่ ฉันไม่ใช่มนุษย์ ฉันถูกกำเนิดโดยใครสักคนนึ่งซึ่งฉันไม่เคยเห็นหน้าของเค้า เพราะฉันถูกคุณลุงคนหนึ่งรับมาเลี้ยงตั้งแต่ 5 ขวบ อย่างน้อยตอนเด็กช่วงเวลาที่ความจำดีที่สุดอาจจะอายุแค่นั้น แต่สำหรับฉันไม่ ฉันจำความอะไรไม่ได้ตั้งแต่ตอนนั้น ส่วนที่ตอนนี้ใช้เป็นที่อาศัยตั้งแต่เด็กคือสิ่งที่พวกมนุษย์เรียกว่าสวรรค์ เป็นที่เหล่ามนุษย์มักคิดว่ามีแต่พวกเหล่านางฟ้า ใจดี มีเมตรา อาศัยอยู่แต่เปล่า ทุกคนที่นี้เห็นแก่ตัวกันหมดทุกคน ไม่ต่างอะไรจากโลกมนุษย์และโลกใต้บาดาล ทุกคนต่างแข่งขันกับคนอื่นทั้งนั้น และคอยเหยียบคนอื่นเพื่อให้ตนเองสูงขึ้นด้วยคำพูดและการกระทำโง่ๆของพวกเค้า แน่นอนว่ามันทำให้คนอื่นทรมารเหมือนฉัน.. ฉันถูกเหล่านางฟ้าที่ดูเหมือนจะไม่ใช่แต่ก็ใช่รังเกียจและสั่งให้คนอื่นรังเกียจฉันเพียงเพราะแค่ว่าฉันเป็นครึ่งซาตานครึ่งเทพี ฉันรู้ตัวฉันดีว่าทำไมถึงต้องเกิดมาเป็นอย่างนี้ มันไม่ง่ายเลยกับการที่จะดำรงชีวิตอย่างปกติ เพราะคำว่า 'ซาตาน' สำหรับพวกเค้า คือเหล่าภูติผีปีศาจที่จะจ้องทำลายหรือทำร้ายแม้กระทั้งเอาดวงวิญญาณพวกเค้าไปทรมาร ความจริงเรื่องพวกนี้เคยเกิดขึ้นแต่นั้นเมื่อ 200 กว่าปีที่แล้วแต่ปัจจุบันยังคงถือคติเดิมๆ
'โรสมาหาพ่อหน่อย..'
เสียงชายชราผู้หนึ่งก้องดังทั่วทุกมุมห้องซึ่งไม่อาจหาที่มาของต้นเสียงได้ทำให้ร่างบางที่นั้งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะต้องรีบปิดหนังสือแล้วเดินออกจากห้องไปยังชั้นบน ร่างบางเดินมาเรื่อยๆตามเสียงที่บอกว่าให้ไปพบกันที่ห้องอาหาร อ่าาา นี้ฉันลืม'ทานข้าวนี้เองท่านถึงเรียก เสียงรองเท้าส้นสูงสีดำกระทไปทั่วผืนกระเบื้องที่เงาพอที่สามารถสะท้อนให้เห็นรูปร่างของร่างบางที่เดินอยู่
โรส : "สวัสดีตอนเที่ยงค่ะท่านพ่อ"
ร่างบางหยุดต่อหน้าโต๊ะก่อนจะเอามือมาประสานกันที่ช่วงหน้าท้องแล้วโค้งตัวลงทักทายชายชราที่นั้งอยู่บนเก้าอี้ที่ส่งแสงมากพอสมควร
'ลืมทานข้าวเที่ยงอีกแล้วสินะ ถ้าไม่เรียกเตือนคงได้เฉาตายในห้องพอดีนะโรส'
ท่านเอ่ยพูดอย่างติดตลกทำให้ร่างบางที่ฟังอยู่หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเข้าไปนั้งประจำที่ตนเอง
โรส : "พอดีช่วงนี้ติดหนังสือนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่ถึงขั้นลืมทำบางอย่างนะคะ"
'อย่างเช่นลืมทานข้าวเที่ยงกับไปตรวจสอบโลกมนุษย์'
จริงงสิ เกือบลืมเวลาบ่ายสองต้องไปตรวจสอบจำนวนประชากรเหล่ามนุษย์ ควจะไม่จริงส่ะแล้วที่ไม่ลืม
โรส : "นิดหน่อยเองค่ะ ไม่ได้ลืมสักหน่อยนิคะ"
'สิ่งที่หนูคิด พ่อรู้หมด'
ท่านใช้นิ้วชี้ที่หัวฉันก่อนจะยิ้มขำเบาๆ
โรส : "ตามทันทุกครั้งเลยนะคะ เมื่อไหร่หนูจะมีความคิดเป็นของตนเองล่ะ"
'ต่อเมื่อหนูอายุครบ 100 ปี'
โรส : "ท่านพ่อ"
ร่างบางหันไปมองท่านด้วยดวงตากลมโตอย่างน่าเอ็นดู
'อ่ะ เรื่องจริง'
ยังไม่เลิกแหย่จะย้ายลงไปอยู่โลกใต้บาดาลจริงๆด้วย
'อย่าแม้แต่จะคิดนหนูโรส'
ไม่มีความอิสระเลย ใช่ คนบนสวรรค์ทุกคนไม่เคยมีอิสระเพราะสิ่งที่ทุกคนคิดมักจะถูกบันทึกลงในสมุดของคนนั้นโดยที่สมุดเล่มหนึ่งที่จะปรากฏทุกครั้งทีทุกคนคิดไม่เว้นแต่ฉัน มันถูกจดบันทึกไว้หมด โดยจะขึ้นตามแล้วแต่ว่าคนๆนั้นสำคัญแค่ไหน สีจะแตกต่างไปแยกตามวรรณะ
สีแดง
ใช้จดบันทึกของเหล่านางฟ้าทั่วไป หรือถ้าเปรียบกับมนุษย์ก็แค่คนธรรมดาทั่วไป
สีเขียว
ใช้จดบันทึกของเหล่าทูติ ที่ดูแลทรัพยากรธรรมชาติบนโลกมนุษย์
สีม่วง
ไม่ต่างจากนางฟ้าแต่จะมีวรรณะที่สูงขึ้นมาอีก 2 ขั้นที่มนุษย์เรียกว่าเทวดา ซึงพวกเค้ายังคงมีจิตใจที่งดงามกว่าไหนๆชั้นนี้จะแตกต่างจากชั้นอื่นเพราะพวกเค้าสามารถกำนหดโชคชะตาคนได้ก็แค่นั้น แต่กำหนดเฉพาเหล่ามนุษย์แต่ถ้าเหล่าเทวดาแน่นอน ต้องเป็นผู้ที่สูงสุดจากชั้นอื่นๆ
สีดำ
พวกชนชั้นกลุ่มนี้จะไม่ต่างอะไรจากพ่อ(เลี้ยง)ฉันเท่าไหร่แต่ยังไงพวกเค้ายังคงให้คงามเคารพพ่อฉันให้อญุ่สูงสุดทุกวรรณะอยู่ดี
สำหรับฉันฉันชอบทุกสีโดยเฉพาะสีม่วงและสีเขียวเพราะมันดูมีสีสันต์ที่แปลกใหม่สำหรับฉันดีอาจจะเป็นสีที่ปกติสำหรับมนุษญืแต่จะแตกต่างจากพวกฉันมากเพราะนานๆทีพวกเคาาจะคิดอะไรสักอย่างเพราะส่วนใหญ่ผู้คนเหล่านี้หายากมาก อีกอย่างเพราะพวกเค้ามีงานทำตลอกเวลาทำใ้หไม่ีช่วงเวลาคิด
เอาล่ะทุกสีสวยหมด ยกเว้นของฉัน....
สีน้ำตาล
มันไม่ได้แปลกที่สีแต่แปลกที่ทำไมเวลาจดทุกครั้งต้องมีคนยืนจด ทำไมของคนอื่นถึงไม่มี ปกติจะมีปากกาเขียนโดยอัตโนมัติแต่ฉันสิแปลก แต่คงเป็นปกติฉันไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ที่มีการจดความคิดแปลกๆนี้ขึ้น เพราะเพื่อป้องกันไม่ให้ใครสักคนคิดทำร้ายโลก หรือ ฆ่าตัวตาย ทุกอย่างต้องมีเหตุผลและที่มา ซึ่งเหตุผลที่ต้องทำแบบนี้ก็ยังคงเกิดขึ้นเพราะตัวฉันเองไม่ใช่ตอนนี้ เอาเถอะถือว่าเรื่องเหล่านี้ฉันเป็นคนเริ่ม แต่ไม่ใช่ว่าพ่อจะมานั้งอ่านของทุกคนหรอก เพราะนางฟ้าตั้งเยอะแยะเลยมีพวกกลุ่มแบ่งๆทำหน้าที่ต่างไป ยกเว้นเล่มสีม่วง ดำ และของฉัน
'คิดอะไรเพลินๆอีกล่ะสิ'
โรส : "ค่ะ นิดหน่อยเท่านั้นขอบคุณสำหรับอาหาร ไปก่อนนะคะ"
ร่างบางหันไปเคารพท่านก่อนจะรีบก้าวขาออกจากห้องอาหาร
อลิชา : "มาก่อน 3 นาที"
เสียงเพื่อนสาวเพียงคนเดียวของร่างบางดังขึ้นเมื่อเห็นร่างบางเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
โรส : "อืม ไปเถอะ"
อลิชา
Anona (อโณณา)
ละติน แปลว่า สับปะรด เทพธิดาแห่งการเก็บเกี่ยวผลผลิตอังกฤษ แปลว่า ชื่นชอบ งดงาม (ลลิษาดีๆนั้นเอง)
เธอเป็นผู้ดูแลทรัพยากรธรรมชาติของมนุษย์ และเธอสวยมากสำหรับฉัน
สวยจนหาที่เปรียบไม่ได้ แต่ยังไงก็ตามเธอสวยแค่สำหรับวกฉันบนโลก มีมนุษย์ที่หลากหลายเชื่อชาติแตกต่าง
อโณณา : "ฉันจะไปดูสวนผลไม้"
ร่างบางหันไปพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันมาสนใจดอกกล้วยไม้ต่างๆที่กำลังเบ่งบานอย่างรวดเร็ว
โรส : "น่าสนใจ..."
อโณณา : "เห้ๆ จะเด็ดมันก็บอกก่อนสิ ทำแบบนั้นได้ตายทั้งต้นพอดี"
โรส : "...."
ร่างบางชะงักก่อนจะรีบดึงมือตนเองให้กลับมาอยู่แนบชิดลำตัวเหมอนเดิม เผลอจะไปเด็ดอีกแล้ว
โรส : "ขี้หวง..."
ย่าห์ อโณณาได้แต่สถบอยู่ในใจ
อโณณา : "ทำไมห้องนั้นดูรักดอกไม้ต้นไม้จัง"
คำถามค้างคาใจได้ถูกเอ่ยอออกมาถามร่างบางที่นั้งมองเพื่อนสาวคนเดียวของตนเองที่กำลังนอนคว่ำบนต้นไม้ใหญ่ดูห้องพักใจกลางเมืองโซล
โรส : "ไม่รู้สิ ลงไปดูไหม"
อโณณา : "ก็ดี.."
อโณณา : "สวย...."
ทั้งคู่ยืนดูดอกไม้ต่างๆที่ถูกประดับประดาวางไว้ทั่วระเบียงและในห้อง
โรส : "ดอกกุหลาบสีชมพู เธอมีความรักหรอเนี้ย"
ร่างบางหยิบดอกกุหลาบในแชกันมาดูก่อนจะวางไว้ที่เดิมแล้วเดินไปทางระเบียง
อโณณา : "อยากเกิดเป็นมนุษย์จัง น่าจะสบายกว่านี้"
โรส : "....ไม่ทุกคนหรอก บางคนชีวิตกว่าจะผ่านอะไรมาได้"
อโณณา : "รู้ดีจัง ไปแอบมองมารึไง"
โรส : "ไม่เคย"
โรส : "กลับเถอะ..."
ร่างบางเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นรถคันสีดำสนิทจอดอยู่หน้าโรงแรม ก่อนจะมีหญิงสาวอีก 4 คนเดินลงมาจากรถ
อโณณา : "อืม"
stop now.
ชี้เเจงนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่อง จีมินกับโรเซ่ ไม่ชอบกดออกนะคะ เรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียนไม่มีเจตนาทำร้ายศิลปิน
ความคิดเห็น